การรับมือกับความสูญเสีย
- SKH Palliative Care Staff
- 14 พ.ค.
- ยาว 1 นาที

เพื่อตัวเอง เพื่อหัวใจที่ยังมีพรุ่งนี้
"ความสูญเสีย" ไม่ว่าจะเป็นการจากไปของคนรัก การเจ็บป่วยที่พรากความสามารถ หรือแม้แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต เป็นสิ่งที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ ในขณะที่แต่ละคนมีวิธีตอบสนองต่อความสูญเสียแตกต่างกัน แต่สิ่งที่เรามีเหมือนกันคือ "ความรู้สึกเจ็บปวด" และคำถามว่า "เราจะผ่านมันไปได้อย่างไร"
อารมณ์ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อเผชิญกับความสูญเสีย
เมื่อเกิดความสูญเสีย เราอาจเผชิญกับอารมณ์หลากหลาย ซึ่งอาจเกิดพร้อมกันหรือสลับกันไปมา เช่น
ช็อก มึนงง ไม่เชื่อว่าเกิดขึ้นจริง
โศกเศร้า และร้องไห้โดยไม่ทราบสาเหตุ
โกรธ กับสิ่งที่เกิดขึ้นหรือโทษตัวเอง/ผู้อื่น
รู้สึกผิด ที่ไม่ได้ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งก่อนสูญเสีย
รู้สึกว่างเปล่า ไร้ความหมาย
หวาดกลัวหรือวิตกกังวล ว่าจะเกิดการสูญเสียอีก
เหล่านี้เป็น “อารมณ์ปกติ” ของการตอบสนองต่อความสูญเสีย และมักค่อยๆ บรรเทาลงตามเวลา
ผลกระทบจากความสูญเสีย
ความสูญเสียไม่ได้ส่งผลแค่ทางจิตใจเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อร่างกาย ความสัมพันธ์ และการใช้ชีวิต เช่น
นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย
ขาดสมาธิ สูญเสียแรงจูงใจในการทำสิ่งต่างๆ
หลีกเลี่ยงการเข้าสังคม หรือรู้สึกห่างเหินจากผู้อื่น
เกิดความรู้สึกว่าไม่มีคุณค่า หรือหมดศรัทธาในชีวิต
หากสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงชั่วคราว ถือเป็น การตอบสนองปกติ แต่หากอยู่นานเกิน 2 เดือนหรือรุนแรงขึ้น ควรเริ่มมองหาความช่วยเหลือ
การดูแลตนเองเมื่อเผชิญกับความสูญเสีย
ทางกาย
พักผ่อนให้เพียงพอ อย่าบังคับตัวเองให้ “เข้มแข็ง”
รับประทานอาหารสม่ำเสมอ แม้ไม่หิวก็ควรกินเล็กน้อย
ออกกำลังกายเบาๆ เช่น เดิน หรือโยคะ เพื่อให้ร่างกายได้ขยับและคลายเครียด
ทางใจ
ยอมรับอารมณ์ของตัวเองโดยไม่ตัดสิน เช่น “วันนี้ฉันเศร้ามาก ก็เพราะฉันรักเขามาก”
เขียนความรู้สึกลงสมุด หรือพูดคุยกับคนที่ไว้ใจ
หาวิธีรำลึกถึงผู้สูญเสียอย่างมีความหมาย เช่น สวดมนต์ ทำบุญ หรือสร้างสิ่งเตือนใจที่อบอุ่นใจ

สัญญาณที่ควรขอความช่วยเหลือจากนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์
หากคุณหรือคนใกล้ชิดพบว่าอาการต่อไปนี้เกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์หรือเดือน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
รู้สึกสิ้นหวัง ไม่เห็นคุณค่าชีวิต
คิดถึงการทำร้ายตัวเอง หรืออยากตาย
ไม่สามารถทำงานหรือใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
รู้สึกผิดต่อความสูญเสียอย่างรุนแรงและไม่มีวันให้อภัยตัวเอง
แยกตัวจากผู้อื่นจนสูญเสียการเชื่อมโยงทางสังคมทั้งหมด
การพบผู้เชี่ยวชาญไม่ได้แปลว่า “อ่อนแอ” แต่คือการดูแลหัวใจอย่างจริงจัง เช่นเดียวกับที่เรารักษาอาการไข้หรือเจ็บป่วยทางกาย
ความหวังที่ยังมีอยู่
แม้ความสูญเสียจะเปลี่ยนชีวิตเราไปตลอดกาล แต่ “การเยียวยา” ก็เป็นไปได้ และไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ การให้เวลาตนเองอย่างอ่อนโยน พร้อมกับการยอมรับความรู้สึกอย่างซื่อตรง คือเส้นทางที่นำไปสู่การเยียวยาที่แท้จริง

คุณไม่จำเป็นต้องเดินคนเดียว มีครอบครัว เพื่อน กลุ่มสนับสนุน และผู้เชี่ยวชาญคอยอยู่เคียงข้างเสมอ
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
ศูนย์ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต: 1323 Mental Health Hotline
Worden, J.W. (2018). Grief Counseling and Grief Therapy (5th ed.). Springer Publishing.
American Psychological Association. (2023). Grief: Coping with the loss of your loved one
Kübler-Ross, E., & Kessler, D. (2005). On Grief and Grieving: Finding the Meaning of Grief Through the Five Stages of Loss. Scribner.
Comments